วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การเปรียบเทียบการวิบัติ slope ชั้นดิน กับ slope ชั้นหิน

มวลดินหรือหินมีชนิดของการพังทลาย (lype of failure) แตกต่างกัน ทังนี้เพราะการกําเนิด ลักษณะ ของโครงสร้าง และความเชือมแน่นของดินและหินแตกต่างกัน

การเคลื่อนตัวลงสี่ต่ําของมวลดินและหินตามไหล่เขาหรือไหล่ถนนอย่างทันทีทันได ในช่วงระยะ เวลาสั้นๆ ในเชิงวิศวกรรมมีชื้อเรียกรวมกันไปว่าเป็น ดินถล่ม (landslide) หรือ หินถล่ม (rockslide)การ เครือนตัวของดินและหิน มีความแตกต่างทั้งขนาด ปริมาร และระดับลึกของการเคลือนตัว
รูปแบบของการวิบัติดิน
การคืบ การไหล การเลื่อนหลุดเป็นกะบิ การเลื่อนไถลตามระนาบ

การคืบดิน (creep) เป็นมของมวลดิน (หรือหิน) ที่มีการเคลือนที่อย่างช้าๆ (น้อยกว่า 10 มม./ปี) ลงไปตามลาดเขาโดยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงของโลก ความชื้นในบรรยากาศและน้ําฝนเป็นตัวการ ที่สําคัญ ลักษณะนี้สังเกตุเห็นได้ในบริเวณที่มีการสะสมับถมบนลาดเชิงเขา ในรูปจะเห็นว่าตรงบริเวณ นั้นหลักที่ปักไว้ เสาโทรสาร หรือ ผนังกั้นดินเอนลงตามทิศทางการคีบของมวลดิน

การพังทลายของหิน
1.หินหล่น (Rock fall)
เป็นการหลุดออกจากชิ้นส่วนหิน ในลักษณะของชิ้นส่วนอิสระ เมื่อมีการผุพังหรือสึกกร่อน มักพบตามบริเวณหน้าผา หรือความลาดเอียงที่ชัน ตามปกติหินหล่นไม่จัดเป็นปรากฏการณ์หินถล่ม
2.การเลื่อนไถลของลานหินตีนผา (Scree Or Talus Slide )
เป็นการหักพังตามธรรมชาติของหินลงมากองอยู่ตีนผา(เป็นหินถล่มแบบหนึ่ง)ตัวการที่มากระทํา เป็นกระบวนการทางกายภาพ หรือจากกิจกรรมที่มนุษย์ทําขึ้น ตัวอย่าง เช่น การทําการขุดเจาะหินบริเวญ ตีนเขาการระบายน้ําออกจากความลาดเอียงไม่เพียงพอ การเพิ่มความดันน้ําในมวลหิน ตัวการเหล่านี้ก่อให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพของความลาดเอียงทั้งนั้น
3.การถล่มของหินอย่างรวดเร็ว (Rock avalanche )
เป็นการเลื่อนไถลของหินแบบหินถล่มลงมาจากที่ลาดชันอย่างรวดเร็ว ตามแรงโน้มถ่วงของโลก (อัตราความเร็วอาจถึง 320 กม./ชม.)ตามปกติเกิดเป็นมวลหินปริมาณมากมหาศาล และเลื่อนไถลเป็น ระยะทางไกล สามารถทําลายสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในทางผ่านได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น